5 Tips ดูแลเสื้อผ้าให้หอมนาน ไร้กลิ่นอับ - ไทยรัฐ

ujungdikampung.blogspot.com

28 ส.ค. 2563 10:00 น.

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ของคุณกับการออกไปทำงานหรือเที่ยวเตร่ด้วย "เสื้อผ้า" ที่หอมสดชื่นนับเป็นวิธีที่ดีที่สุด MIRROR มีทิปส์เล็กๆ น้อยๆ มาแนะนำให้คุณเห็นถึงวิธีการที่จะทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมยาวนาน ไร้กลิ่นอับ ลองทำตามกันดูนะคะ

ควรแยกผ้าก่อนซักเสมอ

แยกผ้าก่อนซักเป็นสิ่งแรกที่คุณแม่ย้ำสอนกับ MIRROR เสมอ แต่ไม่ใช่แยกแค่ก่อนซักนะคะ แต่เป็นการแยกตั้งแต่หลังถอดเสื้อผ้าเลยค่ะ ด้วยกิจกรรมของเราในแต่ละวันนั้นต่างกัน เพื่อไม่ใช้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นไปติดกับเสื้อผ้าสะอาด (ที่สวมใส่แล้ว) เราจึงควรแยกตะกร้าให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ เช่น เสื้อผ้าตะกร้านี้คือเสื้อผ้าทำงาน กรณีนั่งอยู่ในบริษัทเฉยๆ แอร์เย็นๆ ไม่เปื้อนมาก กับเสื้อผ้าที่เปื้อนเหงื่อเยอะๆ เวลาไปลุยงานนอกสถานที่ เป็นต้น

ป.ล.หากพยายามซักเสื้อผ้าที่เปื้อนเหงื่อ หรือคราบสกปรกให้เร็วที่สุดหลังจากสวมใส่ได้ก็จะดีมากๆ เลยค่ะ 

MIRROR Recommend : เสื้อผ้าชิ้นไหนสามารถสวมใส่ซ้ำได้ และควรซักทันทีหลังใส่แล้ว

1. ควรซักเลกกิ้ง, เสื้อเชิ้ต, ถุงเท้า, ชุดว่ายน้ำ, กางเกงรัดรูป, เสื้อชั้นใน, เสื้อกล้าม และชุดชั้นในทุกครั้งหลังสวมใส่

2. กางเกงยีนส์, กางเกงสแล็ค, ชุดนอน, กางเกงขาสั้น และกระโปรง สามารถสวมใส่ได้ถึงสามครั้งก่อนซัก

3. คุณสามารถใส่สูทได้ 3-5 ครั้ง ก่อนที่จะต้องซักแห้ง แต่ขึ้นอยู่กับอากาศและสภาพแวดล้อมนั้นๆ ด้วยนะคะ เช่น สวมใส่ในบริษัท แอร์เย็นๆ อากาศถ่ายเทสะดวกก็จะสามารถใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าสวมใส่ไปในสภาพแวดล้อมที่มีควันไฟหรือมีฝุ่นควัน ก็จะต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้นค่ะ

เช็กเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ให้ดี

ตรวจดูอุปกรณ์เช่น เครื่องซักผ้าของคุณให้ดี ว่าสะอาดหรือมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในนั่นไหม เพราะหากมีสิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นต้นเหตุที่จะทำให้เสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นเหม็นหรืออับได้ (น้ำเปล่าที่ใช้ซักก็ด้วยนะ อย่ามองข้ามเป็นอันขาด) ซึ่งหลังจากการตวจเช็กแล้วเจอสิ่งแปลกปลอมหรือพบเจอความสกปรกขึ้นมาจริงๆ คุณสามารถทำความสะอาดเบื้องต้น เพื่อล้างคราบสกปรกก่อนได้ ด้วยการเทผงซักฟอกลงไป (แบบไม่มีเสื้อผ้า) แล้วเปิดให้เครื่องซักผ้าทำงาน เมื่ออุปกรณ์สะอาดเรียบร้อยคุณค่อยซักผ้าตามปกติ เท่านี้ก็ทำให้เสื้อผ้าหอมนานได้แล้วค่ะ

นอกจากดูแลอุปกรณ์ที่ใช้ซักผ้าให้สะอาดแล้ว การดูแลบ้านให้สะอาดก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลยนะคะ เนื่องจากเสื้อผ้าสามารถดูดซับกลิ่นได้ ดังนั้นหากบ้านของคุณไม่มีกลิ่นเหม็นมากเสื้อผ้าของคุณก็จะไม่มีกลิ่นเหม็นตามไปด้วย เราจึงอยากให้คุณทำความสะอาดปัดฝุ่นและดูดฝุ่นในบ้าน โดยเฉพาะห้องที่มีเสื้อผ้าอย่างเป็นประจำ หรือจะใช้ใช้น้ำหอมปรับอากาศฉีดก็ได้หากไม่มีเวลา 

เลือกกลิ่นผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ชอบ

ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นหอม ต้องยกความดีความชอบให้กับผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มค่ะ ซึ่งคุณอยากให้เสื้อผ้ามีกลิ่นแบบไหน เลือกตามใจที่ชอบได้เลย แต่ต้องไม่ยัดเสื้อหรือกางเกงลงไปในเครื่องซักผ้ามากเกินไปจนแน่นนะคะ และควรเทผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณที่พอดีกับเสื้อผ้าด้วย ทั้งนี้หากเครื่องซักผ้าของคุณหยุดทำงานแล้ว ให้รีบนำขึ้นมาตากทันที อย่าแช่เสื้อผ้า หรือทิ้งเสื้อผ้าไว้ในเครื่องเป็นเวลานาน เพราะมันจะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นอับได้ ไม่แน่ความชื้นนั้นอาจก่อตัวเป็นเชื้อราเลยก็ได้เช่นกันค่ะ 

ไม่ควรตากผ้าจนแน่นเกินไป

ข้อนี้สำคัญมากเลยนะคะ ต่อให้คุณซักผ้ามาจนหอมขนาดไหน แต่หากขั้นตอนการตากผ้า Lady MIRROR นำมาใส่ไม้แขวนมาตากเรียงกันจนแน่น จะทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ผ้าแห้งช้าและเหม็นอับได้ ซึ่งวิธีการตากผ้าที่ดี คุณควรตากผ้าให้ห่างออกจากกันสักประมาณ 2 เซนติเมตรค่ะ

จัดเก็บผ้าให้ถูกต้อง

หลังจากที่ตากเสื้อผ้าจนแห้งดีแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายที่เป็นกุญแจสำคัญต้องยกให้กับ "วิธีการจัดเก็บเสื้อผ้า" ค่ะ ซึ่งเราแนะนำให้คุณปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. อย่าพับหรือเก็บเสื้อผ้าไว้ในห้องที่มีกลิ่นแรง เช่น ห้องครัว เพราะกลิ่นเหล่านั้นอาจจะติดมากับเสื้อผ้าของคุณได้

2. ก่อนจะนำเสื้อผ้าไปแขวนหรือพับเก็บ ตรวจสอบให้ถี่ถ้วนว่าในลิ้นชักหรือตู้เสื้อผ้า ไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

3. พยายามอย่าจัดตู้เสื้อผ้าของคุณแน่นเกินไปหรือยัดไอเทมต่างๆ ลงในลิ้นชัก

4. ข้อนี้สำคัญมาก เมื่อเสื้อผ้าของคุณแห้งดีแล้ว ให้รีบเก็บให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการตากแดดทิ้งไว้นานกลิ่นหอมๆ ที่ติดอยู่จะหายไปหมด

5. เพิ่มความสดชื่นและกลิ่นหอมให้ตู้เสื้อผ้าของคุณด้วยการวางหรือแขวนซองบรรจุสมุนไพรแห้ง ดอกไม้หรือเครื่องเทศที่ชื่นชอบ

6. แต่ถ้าไม่ชอบกลิ่นของสมุนไพร หรือดอกไม้กลิ่นต่างๆ ที่แนะนำไปข้างต้น คุณสามารถใช้สเปรย์น้ำหอม หรือสเปรย์ขจัดกลิ่นบนผ้าฉีดลงบนเสื้อผ้าก่อนแขวน หรือพับเก็บเข้าตู้ก็ได้เช่นกัน

7. ข้อสุดท้ายหากคุณสามารถทำได้ก็จะดีมากๆ นั่นก็คือการ ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อในตู้เสื้อผ้าทุกๆ 2-3 วันนั่นเอง

MIRROR Picks :

Lady MIRROR ลองนำทิปส์เหล่านี้ไปปฏิบัติตามกันดูนะคะ ได้ผลหรือไม่ หรือมีทิปส์ใดๆ เพิ่มเติมมาแชร์ให้เราได้ใน FB : Mirror ได้เสมอเลยค่ะ ส่วนบทความหน้าเราจะมาแชร์เคล็ดลับเรื่องอะไรอีก รอติดตามกันนะ 

Let's block ads! (Why?)

"กลิ่นหอม" - Google News
August 28, 2020 at 10:00AM
https://ift.tt/2QxNqJ6

5 Tips ดูแลเสื้อผ้าให้หอมนาน ไร้กลิ่นอับ - ไทยรัฐ
"กลิ่นหอม" - Google News
https://ift.tt/2zO6HBg